TH Ranking - ข่าว - 2025-04-02

วิธีตรวจสอบ Broken Links ในเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุง SEO และประสบการณ์ผู้ใช้งาน

ลิงก์เสีย (Broken Links) คือปัญหาหนึ่งที่สร้างความไม่สะดวกและลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว ธุรกิจ หรือองค์กร การมีลิงก์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้อาจส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และยังมีผลต่ออันดับ SEO บนเครื่องมือค้นหาอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีการค้นหาลิงก์เสียในเว็บไซต์อย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งเทคนิคพื้นฐานและเครื่องมือที่ใช้ในระดับมืออาชีพ

ทำไมลิงก์เสียจึงเป็นปัญหา?

  1. ลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ – ผู้เข้าชมที่พบลิงก์เสียอาจมองว่าเว็บไซต์ไม่ได้รับการดูแล หรือไม่มีความเป็นมืออาชีพ
  2. ส่งผลเสียต่อ SEO – เครื่องมือค้นหา เช่น Google จะตรวจจับลิงก์เสีย และอาจลดอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา
  3. ทำให้ผู้ใช้หลงทาง – ลิงก์เสียสามารถทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกหงุดหงิด หรือออกจากเว็บไซต์ทันที

ประเภทของลิงก์เสีย

  • ลิงก์ภายใน (Internal Broken Links): ลิงก์ที่ชี้ไปยังหน้าภายในเว็บไซต์เดียวกัน แต่เป้าหมายไม่สามารถเข้าถึงได้
  • ลิงก์ภายนอก (External Broken Links): ลิงก์ที่ชี้ไปยังเว็บไซต์อื่นที่ไม่มีอยู่แล้วหรือถูกลบออก

วิธีตรวจสอบลิงก์เสียด้วยตนเอง

  1. คลิกตรวจทีละลิงก์ – เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กหรือมีจำนวนหน้าจำกัด
  2. ใช้เครื่องมือจากเบราว์เซอร์ – เช่นการใช้ Developer Tools ของ Google Chrome เพื่อดูว่าแต่ละลิงก์ตอบกลับอย่างไร

แม้การตรวจด้วยตนเองจะเป็นวิธีที่ง่าย แต่ก็ใช้เวลานานและเสี่ยงที่จะพลาดลิงก์เสียโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในเว็บไซต์ที่มีหลายหน้า

เครื่องมือช่วยตรวจหาลิงก์เสีย

1. Google Search Console
  • ให้คุณตรวจสอบข้อผิดพลาดของหน้าเพจ รวมถึงลิงก์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ (404 Not Found)
  • ยังสามารถดูข้อมูลว่า Googlebot พบลิงก์เสียหน้าไหนบ้าง
2. Screaming Frog SEO Spider
  • โปรแกรมที่สามารถสแกนเว็บไซต์ทั้งหมด
  • แสดงผลลัพธ์ของลิงก์ที่ตอบกลับด้วย HTTP Status 404, 403 หรืออื่น ๆ ที่ผิดพลาด
  • ใช้ได้ทั้งบน Windows และ Mac
3. Broken Link Checker (ออนไลน์)
  • เพียงใส่ URL เว็บไซต์ แล้วรอให้ระบบสแกนและรายงานลิงก์เสียทั้งหมด
  • ตัวอย่างเว็บไซต์: brokenlinkcheck.com หรือ deadlinkchecker.com
4. Ahrefs หรือ SEMrush
  • เหมาะกับมืออาชีพด้าน SEO
  • ให้ข้อมูลลิงก์เสียอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำในการแก้ไข
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่หรือเว็บไซต์ธุรกิจในประเทศไทยที่ต้องการภาพลักษณ์ที่ดี

การแก้ไขลิงก์เสีย

  1. เปลี่ยนลิงก์ใหม่ให้ถูกต้อง – หากหน้าเป้าหมายยังมีอยู่แต่ URL เปลี่ยน ให้แก้ไขลิงก์ให้ตรง
  2. ลบลิงก์ – หากไม่มีหน้าปลายทางอีกแล้ว และไม่สามารถหาหน้าอื่นที่ใกล้เคียงได้
  3. ใช้การ Redirect – หากต้องการให้ผู้ใช้ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องใหม่ ให้ใช้ Redirect 301 เพื่อชี้หน้าใหม่

การป้องกันลิงก์เสียในอนาคต

  • อัปเดตเว็บไซต์เป็นประจำ
  • ใช้ระบบ CMS เช่น WordPress ที่มีปลั๊กอินสำหรับตรวจลิงก์เสียอัตโนมัติ เช่น "Broken Link Checker"
  • ตรวจสอบลิงก์ทุกครั้งก่อนเผยแพร่บทความหรือเนื้อหาใหม่
  • วางโครงสร้างเว็บไซต์อย่างมีระบบ ทำให้การจัดการลิงก์ง่ายขึ้น

ตัวอย่างกรณีในประเทศไทย

หลายเว็บไซต์ในประเทศไทย เช่น เว็บข่าวสาร, ร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ภาครัฐ มักจะมีลิงก์เสียสะสมอยู่มากเนื่องจากไม่ได้มีการตรวจสอบหรืออัปเดตเป็นประจำ ส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่พอใจและออกจากเว็บไซต์ทันที ตัวอย่างเช่น เว็บประกาศราชการที่ลิงก์ไปยังเอกสาร PDF ซึ่งหมดอายุแล้ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้

สรุป

การดูแลและตรวจสอบลิงก์เสียในเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี แต่ยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และส่งผลดีต่อ SEO การใช้เครื่องมือช่วยตรวจสอบลิงก์เสียถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเว็บไซต์ของคุณมีขนาดใหญ่หรือมีหลายหน้าที่เชื่อมโยงกัน หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ในประเทศไทย การดูแลในเรื่องนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับเว็บไซต์อื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน

การลงมือค้นหาและแก้ไขลิงก์เสียอาจดูเหมือนงานเล็กน้อย แต่กลับมีผลกระทบใหญ่หลวงต่อความสำเร็จของเว็บไซต์ในระยะยาว


เราเป็นเอเจนซี่การตลาดที่ดีที่สุดในประเทศไทยบนอินเทอร์เน็ต
หากคุณต้องการความช่วยเหลือ กรุณาติดต่อเราผ่านแบบฟอร์มติดต่อ

ปรึกษาฟรี

TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!

เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ

ปรึกษาฟรี

การปรึกษาฟรี ฝ่ายบริการลูกค้า

ต้องการความช่วยเหลือในการเลือกแผน? กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านขวา และเราจะติดต่อกลับหาคุณ!

Fill the
form